Loading...
Ajinomoto Thailand
Banner of <p>วิธีทำข้าวต้มหมูทรงเครื่อง (สูตรโบราณ)<br />
โดย &lsquo;เชฟชานนท์&rsquo;</p>
Banner of <p>วิธีทำข้าวต้มหมูทรงเครื่อง (สูตรโบราณ)<br />
โดย &lsquo;เชฟชานนท์&rsquo;</p>

วิธีทำข้าวต้มหมูทรงเครื่อง (สูตรโบราณ)
โดย ‘เชฟชานนท์’

5.00 / 5
40
Mins
 Intermediate
2
Servings
Ingredient

หมูสามชั้นหั่นบางพอดี

200 กรัม

หมูสับหรือหมูบด

200 กรัม

ข้าวหอมมะลิหุงสุก

2 ถ้วยตวง

รสดี รสหมู

1 ½ ช้อนชา

ซอสถั่วเหลือง

1 ½ ช้อนชา

กระเทียมไทยสับ

1 ช้อนโต๊ะ

รากผักชีสับ

1 ช้อนโต๊ะ

ผักชีซอย

1 ช้อนโต๊ะ

ต้นหอมซอย

2 ช้อนโต๊ะ

น้ำสะอาด

500 มิลลิลิตร

พริกไทยป่นตามชอบ

Product in this recipe
Product in this recipe
Direction

ข้าวต้มเป็นเมนูที่ทำง่าย ทานง่าย แต่ละบ้านก็มีสูตรแตกต่างกันไป บางบ้านใช้ข้าวสวยหุงสุกราดด้วยน้ำซุปกลมกล่อม บางบ้านต้มข้าวใส่เกลือให้พอมีรสชาติ 

แต่สำหรับบ้านของเชฟชานนท์ - ชานนท์ เรืองศรี ข้าวต้มที่รสชาติยังคงตราตรึงเห็นจะเป็นข้าวต้มหมูทรงเครื่องสูตรโบราณรสมือแม่ หอมน้ำมันหมูกระเทียมเจียว กลมกล่อมด้วยกลิ่นหมูสับผัดหอมๆ เนื้อสัมผัสของทั้งหมูสามชั้นและหมูสับนุ่มๆ ที่อวลด้วยกลิ่นรากผักชี ทำให้เมนูนี้เป็นมื้อเช้าที่อบอุ่นและคิดถึงอยู่เสมอ 

      วิธีทำนั้นก็ง่ายแสนง่าย มาทำไปพร้อมๆ กับเชฟชานนท์กันเลย

 1.   ค่อยๆ เจียวหมูไป ไม่ต้องรีบ
 


 

          สำหรับเมนูนี้เชฟชานนท์เลือกใช้หมูสามชั้น สุขภาพดี ที่มีชั้นไขมันสวยๆ นำมาแล่ให้เป็นชิ้นบางพอดีคำ จากนั้นตั้งกระทะไฟอ่อนค่อนไปทางกลางเพื่อไม่ให้ไหม้เร็วจนเกินไป นำหมูที่แล่เตรียมไว้ลงไปเจียวในกระทะเพื่อรีดน้ำมันหอมๆ จากหมูสามชั้น

เคล็ดลับจากเชฟชานนท์ หากหมูที่ใช้มีชั้นไขมันน้อยเกินไปจนไม่มีน้ำมันออกมา
 

  • นำกากหมูมาเจียวพร้อมกับหมูสามชั้นได้
  • ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าลงไป เพราะน้ำเปล่าจะช่วยรีดน้ำมันหมูออกมา
  • หยอดน้ำมันพืชลงไปช่วย
     

ค่อยๆ เจียวหมูอย่างใจเย็น รอจนสุกเป็นสีเหลืองทองก็ถือว่าใช้ได้

 2.  เจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบ
 


 

หรี่ไฟให้อ่อนแล้วนำกระเทียมสับที่เตรียมไว้ลงไปเจียวพร้อมกับหมูในกระทะ ระวังอย่าให้ไฟแรง เพราะกระเทียมจะไหม้ จากนั้นปรุงรสด้วยรสดี รสหมู ที่ช่วยให้หมูสามชั้นและกระเทียมเจียวมีรสชาติกลมกล่อมด้วยผงหมูแท้และเครื่องเทศหลากชนิด

เจียวให้กระเทียมออกสีเหลืองก็ยกออกสะเด็ดน้ำมันได้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานมาก เชฟชานนท์แนะว่ากระเทียมจะอมน้ำมันเอาไว้และออกมาสุกต่อข้างนอก จนเหลืองทองกรอบพอดี 

พระเอกของจานนี้คือน้ำมันที่ได้จากการเจียว หลังจากสะเด็ดน้ำมันให้เก็บน้ำมันที่ได้เอาไว้นำมาผัดหมูต่อจะทำให้ข้าวต้มโบราณจานนี้มีกลิ่นหอมอบอวล

 3.  ผัดหมูสับและข้าวสวยในน้ำมันหมูกระเทียม
 

ตั้งกระทะไฟกลางแล้วเทน้ำมันหมูที่เราพักไว้สักครู่ลงไป เจียวรากผักชีสับจนออกสีเหลือง จากนั้นนำหมูสับลงไปผัดคลุกเคล้าจนสุก ค่อยๆ ยีหมูอย่าให้จับตัวกันเป็นก้อน ถ้าแห้งเกินไปเติมน้ำได้เล็กน้อย หรือหยอดน้ำมันหมูเพิ่มลงไปได้
 

พอหมูสุกได้ที่นำข้าวหอมมะลิหุงสุกลงไปผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เร่งไฟให้แรงขึ้นจะทำให้ข้าวผัดเป็นเม็ดสวยงาม ถ้าข้าวจับตัวกันเป็นก้อน ต้องบี้กดกับกระทะให้แบน ผัดข้าวคลุกเคล้าหมูสับและน้ำมันหมูเจียวหอมๆ จนสุกพอดีแล้วปิดไฟ

 4.  ต้มข้าวให้นุ่ม
 

เทน้ำสะอาดใส่หม้อ เปิดไฟแรง แล้วนำข้าวคลุกหมูสับหอมๆ ลงไปต้มตอนที่น้ำยังไม่เดือด หลังจากใส่ข้าวแล้วให้ลดเป็นไฟอ่อน เพื่อไม่ให้น้ำเดือดเกินไปจนทำให้เม็ดข้าวแตก 

ตุ๋นข้าวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนข้าวขึ้นหม้อ น้ำเริ่มเหือดท่วมข้าวกำลังดี ขั้นตอนตุ๋นข้าวอาจใช้เวลาไม่เท่ากัน เพราะข้าวบางชนิดคายน้ำน้อยใช้เวลาตุ๋นไม่นาน ข้าวบางชนิดคายน้ำมากก็ใช้เวลามากตามไปด้วย สำหรับใครที่ตุ๋นจนข้าวแห้งเกินไป ค่อยๆ รินน้ำเปล่าเติมก็ช่วยได้

พอข้าวสุกได้ที่ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลือง 1 ½ ช้อนชา จะใช้สูตรธรรมดากลมกล่อมหรือสูตรเห็ดหอมก็อร่อยไปอีกแบบ จากนั้นปรุงด้วย รสดี รสหมู 1 ช้อนชา แล้วคนให้เข้ากัน โรยพริกไทยป่นและต้นหอมซอยตามใจชอบ

 5.   จัดจานข้าวต้มหมูทรงเครื่อง (สูตรโบราณ)
 

ตักข้าวต้มหมูทรงเครื่องใส่ชามและนำหมูสามชั้นเจียวกระเทียมที่พักไว้มาจัดวางบนข้าวต้ม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชีตามใจชอบ เท่านี้ก็ได้อร่อยกับเมนูคลาสสิกหอมกลิ่นน้ำมันหมูกระเทียมเจียวอบอวลสูตรโบราณ ที่แม้จะหากินยาก แต่ก็ทำเองได้ง่ายๆ เพียงมี รสดี รสหมู ที่เป็นเบื้องหลังรสชาติอูมามิช่วยให้จานนี้กลมกล่อม หอม อร่อย