Better Meal ก้าวใหม่สู่มื้ออาหารสุขภาพ ดีต่อสุขภาพยั่งยืน

อะไรคือ Better Meals
Better Meal คือแนวทางการจัดมื้ออาหารสุขภาพรูปแบบใหม่ ที่เน้น มื้อธรรมดาของคนไทย ให้มีความสมดุล และกินได้ทุกวัน ไม่ใช่แค่ “อาหารคลีน” หรือ “สลัด” ที่บางคนกินได้ไม่นานแล้วเลิก แต่คือ อาหารไทยปรุงสด ที่เรากินจริงในชีวิตประจำวัน
เบื้องหลัง Better Meal มีการใช้ ระบบประเมินทั้งมื้ออาหารและสูตรอาหาร เพื่อช่วยให้เราเห็นชัดว่า มื้อที่เรากินอยู่ทุกวันนั้นสมดุลทั้งรสชาติและโภชนาการจริง ๆ และสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เพียงแค่ทฤษฎี
หัวใจของ Better Meal คือการทำให้ สุขภาพดีเริ่มจากสิ่งง่าย ๆ — เพียงจัดมื้อธรรมดาให้สมดุล ก็อร่อยและดีต่อร่างกายได้พร้อมกัน
ทำไมต้อง Better Meals
ในประเทศไทยมีระบบ “ทางเลือกสุขภาพ” สำหรับอาหารบรรจุภัณฑ์ แต่ยังไม่ครอบคลุมถึง อาหารปรุงสด ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยกินจริงในชีวิตประจำวัน อีกทั้งวัฒนธรรมการกินของเราคือการกินเป็น “มื้อ” ที่มีทั้งข้าวและกับข้าวหลายอย่าง จึงจำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ที่ประเมินอาหารในระดับ มื้ออาหาร ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์หรือจานเดียว
จุดหมายของ Better Meals
- ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึง มื้ออาหารสุขภาพ ที่กินได้จริงทุกวัน
- สนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารในการสร้างเมนูที่สมดุลทางโภชนาการ
- สร้างมาตรฐานกลางเพื่อสะท้อนคุณภาพของมื้ออาหารได้ชัดเจน
- ขับเคลื่อนสังคมสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือจากหลายภาคส่วน
โครงการ Better Meal ได้เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2565 โดยการร่วมมือของ 3 หน่วยงานหลักผู้ริเริ่ม ได้แก่
✅ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด
✅ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล (INMU)
✅ สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย (TDA)
และยังมีพันธมิตรจากหลายวงการ ทั้งมหาวิทยาลัย อุตสาหกรรมอาหาร ไปจนถึงหน่วยงานวิชาชีพต่าง ๆ เพราะเรามีความเชื่อเดียวกันว่า...
✨ “มื้ออาหารที่ดี สามารถเปลี่ยนสุขภาพของคนไทยได้จริง”

NPS-M คืออะไร?
NPS-M (Nutrient Profiling System for Meal) คือระบบให้คะแนนคุณค่าทางโภชนาการของ “มื้ออาหาร” แบบครบชุด โดยใช้คะแนนเต็ม 100
ยิ่งคะแนนสูง แปลว่ามื้อนั้นมีสารอาหารที่สมดุลและใกล้เคียงกับเป้าหมายโภชนาการที่เหมาะสม
ใช้ได้กับมื้ออาหารหลายรูปแบบ
- อาหารจานเดียวพร้อมเครื่องเคียง (เช่น ข้าวมันไก่ + น้ำซุป)
- ข้าวราดแกง + กับข้าวหลายอย่าง
- มื้ออาหารแบบสำรับที่กินร่วมกัน
NPS-M ประเมินจากอะไร?
ระบบจะพิจารณาอาหารในมื้อทั้งหมด โดยใช้ 6 ปัจจัยหลักทางโภชนาการ ได้แก่:
- พลังงาน
- โปรตีน
- ผักและผลไม้
- โซเดียม
- น้ำตาลที่เติม
- ไขมันรวม
โดยต้องมี โปรตีน และ ผักผลไม้ ในปริมาณที่เพียงพอ และจำกัด พลังงาน, ไขมัน, น้ำตาล, และ โซเดียม ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยอ้างอิงจาก ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป (Thai Recommended Daily Intakes; Thai RDI) ข้อแนะนำการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี (Food based dietary guideline; FBDG) และ ข้อแนะนำการบริโภคผักและผลไม้วันละ 400 กรัม

 
สำหรับผู้บริโภคทั่วไป:
หากคุณอยากเลือก “กับข้าว” ที่ชอบในแต่ละมื้อ และจับคู่กับกับข้าวที่ช่วยเติมเต็มโภชนาการ
- เมนูไขมันสูง เช่น แกงกะทิ ของทอด หมูสามชั้น กินคู่กับ เมนูไขมันต่ำ เช่น ยำ นึ่ง ย่าง น้ำพริก เป็นต้น
- เมนูที่ใช้เนื้อสัตว์เป็นหลัก เช่น ปลาทอด หมูกระเทียม ไก่ย่าง กินคู่กับ เมนูที่มีผักมาก เช่น แกงส้ม ผัดผักรวมมิตร ส้มตำ
- คนที่กินมังสวิรัติ เน้นผัก เช่น จับฉ่ายเจ กะหล่ำปลีตุ๋น เลือกกินกับเมนูที่ให้โปรตีน เช่น เมนูที่เลือกใช้โปรตีนเกษตร เต้าหู้ เป็นส่วนประกอบ
- เมนูรสจัด โซเดียมสูง เช่น แกงไตปลา ปลาร้า น้ำพริก กินคู่กับผักหลากสี ซึ่งช่วยในการขับโซเดียมออกจากร่างกาย
จะเห็นว่าหากเราเลือกจับคู่กับข้าวได้ดี เราจะได้กินอาหารที่ชอบตามวิถีชีวิต และยังดูแลสุขภาพของตัวเองได้อีกด้วย
สำหรับผู้ให้บริการอาหาร:
คุณสามารถใช้ NPS-M เพื่อ:
จับคู่เมนูที่มีอยู่แล้ว ให้ออกมาเป็นชุดอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้กับลูกค้า

ระบบวิเคราะห์สูตรอาหาร เพื่อให้คุณวางแผนมื้ออาหารสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
NPS-D (Nutrient Profiling System for Meal) คือระบบให้คะแนนโภชนาการของ “กับข้าว” หรือ สูตรอาหารสุขภาพ แต่ละจาน (เต็ม 100 คะแนน)
คะแนนสูง = เมนูนั้นสมดุลตามเกณฑ์ของประเภทอาหารนั้น ๆ
ประเภทของกับข้าว 9 กลุ่มหลัก (version 1.0)

| ประเภทกับข้าว | ลักษณะทางโภชนาการ | ตัวอย่างอาหาร | 
| แกงกะทิ | มีกะทิเป็นส่วนประกอบ | แกงเขียวหวาน ต้มข่าไก่ | 
| แกงไม่ใส่กะทิ | ไม่มีส่วนประกอบของกะทิ | แกงส้ม ต้มยำ | 
| ผัด | ปรุงด้วยน้ำมันและไฟแรง | ผัดผักรวมมิตร ผัดกะเพรา | 
| ลาบ | ไม่ใช้น้ำมัน, น้ำตาลต่ำ | ลาบหมู ส้มตำลาว | 
| ยำ | ไม่ใช้น้ำมัน, น้ำตาลสูง | ยำรวมมิตร ส้มตำไทย | 
| นึ่ง | ปรุงด้วยไอน้ำ, ไร้น้ำมัน | ปลานึ่ง | 
| ทอด | ใช้น้ำมันมาก | ไก่ทอด | 
| ย่าง ปิ้ง อบ | ใช้ความร้อนโดยตรง | หมูย่าง | 
| ชุดน้ำพริก | น้ำพริก + เครื่องเคียงหลากหลาย | น้ำพริกกะปิ + ปลาทู + ผัก | 
โดยกับข้าวแต่ละประเภทจะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย ได้แก่
- เนื้อเป็นหลัก (เนื้อสัตว์ > 2/3 ของน้ำหนัก)
- ผักเป็นหลัก (ผัก > 2/3 ของน้ำหนัก
- ผสม (ไม่เข้ากลุ่มใดชัดเจน)
หลักการประเมิน
- ใช้ 6 ปัจจัยเดียวกับ NPS-M
- ตั้งค่าเป้าหมายแตกต่างกันในแต่ละประเภท เช่น แกงกะทิมีไขมันสูงกว่าแกงใส, ยำมีน้ำตาลมากกว่าลาบ
การใช้งาน NPS-D:
สำหรับผู้พัฒนาสูตรอาหาร / ร้านอาหาร:
- ใช้ NPS-D เพื่อประเมินว่าแต่ละเมนูที่คุณมี อยู่ในระดับใดทางโภชนาการ
- หากเมนูใดไม่ผ่านเกณฑ์ อาจพิจารณาปรับปริมาณเครื่องปรุงหรือส่วนประกอบบางอย่าง
- ไม่จำเป็นต้องปรับทุกเมนู — การเลือกปรับเพียงบางจานก็สามารถช่วยให้มื้อโดยรวม (NPS-M) สมดุลมากขึ้นได้
หมายเหตุ: NPS-D ไม่จำเป็นต้องใช้กับทุกเมนู เพราะบางสูตรอาหารมีรสชาติที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว การปรับเปลี่ยนมากเกินไปอาจกระทบกับความอร่อยและความเป็นเอกลักษณ์ของเมนูนั้น ๆ
สำหรับผู้บริโภคทั่วไป:
ใช้เป็นแนวทางเลือกกับข้าว และปรับลดรส (หวาน มัน เค็ม) ได้ตามเหมาะ
NPS-D คือเครื่องมือที่ช่วยทำให้ จานอาหารสุขภาพ เป็นจริง และส่งต่อไปยังการประเมินในระดับ มื้ออาหาร (NPS-M)

Better Meal มื้อธรรมดา… ที่สุขภาพดีได้ทุกวัน
อาหารสุขภาพไม่ควรเป็นสิ่งที่กินเพียงชั่วคราว แต่ควรเป็น มื้อธรรมดาที่กินได้ทุกวัน นี่คือหัวใจของ Better Meal ที่รวมพลังทั้ง NPS-M (ระบบประเมินมื้ออาหาร) และ NPS-D (ระบบวิเคราะห์สูตรอาหาร) เพื่อช่วยให้คนไทยทุกคนได้ทั้ง ความอร่อย และ สุขภาพดี ในทุกมื้ออย่างยั่งยืน



