ปรุงอาหารที่บ้านอย่างไร ให้ได้ทั้งสุขภาพและความอร่อย?
ในขณะที่ร้านอาหารต้องบริหารต้นทุนและปรุงให้ถูกปากคนส่วนใหญ่ ที่บ้านคือพื้นที่ที่เราสามารถเลือก “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้ครอบครัวได้ ทั้งคุณภาพวัตถุดิบ วิธีการปรุง และรสชาติที่ถูกใจ การทำอาหารกินเองที่บ้านจึงเป็นโอกาสทอง ที่จะได้สร้างมื้ออาหารสุขภาพแบบ Better Meal ได้อย่างแท้จริง
ทำไมการทำอาหารที่บ้านช่วยให้ “มื้ออาหารดีขึ้น” ได้?
1.ควบคุมคุณภาพวัตถุดิบได้เอง
- เลือกผักสดใหม่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
- หลีกเลี่ยงของแปรรูป
- เลือกข้าวกล้องหรือข้าวไม่ขัดสีแทนข้าวขาวบางมื้อ เพื่อให้กลายเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
2.เลือกไขมันที่ดีกว่าได้
- เลือกใช้น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก ซึ่งมีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า
- ใช้กะทิธัญพืช หรือนม ทดแทนกะทิทั่วไปบางส่วนได้
- ไม่ต้องใช้น้ำมันทอดซ้ำก็ทำได้
3.ลดหวานได้โดยไม่ลดความอร่อย
- ใช้ความหวานจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น หอมแดง หอมหัวใหญ่ แครอท
- ลดปริมาณน้ำตาลที่เติมเองโดยตรงลงได้เรื่อย ๆ
- หรือจะเลือกใช้น้ำตาลที่เป็นสารให้ความหวานแทนก็ได้
4.ลดเค็มได้แบบมีรสชาติ
- ใช้เครื่องเทศ เช่น กระเทียม พริกไทย ขิง ข่า ตะไคร้ เพิ่มความหอมและซับซ้อน แทนการใช้รสเค็ม
- ใช้วัตถุดิบที่มีอูมามิสูง เช่น เห็ดหอม มะเขือเทศ ปลาตากแห้ง เพื่อเพิ่มรสชาติธรรมชาติ
- ใช้เวลาในการปรุงให้นานขึ้น เช่น เคี่ยวจนรสกลม ไม่ต้องเติมเยอะ
- ลดเครื่องปรุงและใช้ผงชูรสในปริมาณเหมาะสมเพื่อดึงรสอร่อยโดยได้โซเดียมลดลง
- สำหรับผู้ไม่มีปัญหาโรคไตหรือหัวใจ ยังสามารถใช้เครื่องปรุงสูตรลดโซเดียมในระดับที่พอเหมาะ
5.ได้รสชาติแบบที่เราถูกใจ
การกินข้าวนอกบ้านหลายครั้งอาจเคยเจอว่า เค็มไป หวานไป หรือจืดไป แต่การทำอาหารกินเองที่บ้าน เราสามารถปรับรสชาติให้พอดีในแบบที่เราชอบ จะกลมกล่อมแบบไทยๆ หรืออ่อนรสแบบสุขภาพ ก็เลือกได้เองทุกจาน กินได้อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องฝืนรสชาติ
ทำอาหารที่บ้าน = ควบคุมได้ทั้งคุณภาพและความสุข

การทำอาหารกินเอง ช่วยให้เราเลือกวัตถุดิบดีได้ ปรุงรสได้เอง ลดหวาน มัน เค็มได้จริง ยังอร่อยได้อย่างที่ชอบ ได้เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และที่สำคัญ… สุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน
“Better Meal เริ่มต้นได้ที่บ้าน เพราะคุณคือคนเลือกทุกอย่างในจานนั้นเอง”


