10 เมนูสมุนไพร อิ่มอร่อย และดีต่อสุขภาพจากธรรมชาติ
อาหารสมุนไพรไทยเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดมาหลายพันปี ผสมผสานความอร่อยเข้ากับการบำรุงสุขภาพอย่างลงตัว การใช้สมุนไพรในการปรุงอาหารไม่เพียงเพิ่มรสชาติที่หอมหวาน แต่ยังช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย
อาหารที่มีสมุนไพรเป็นการรวมเอาคุณค่าทางโภชนาการเข้ากับสรรพคุณทางยา ทำให้ทุกมื้ออาหารกลายเป็นโอกาสในการบำรุงสุขภาพ สมุนไพรไทยเช่น กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ข่า ขิง ล้วนมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
บทความนี้นำเสนอเมนูสมุนไพร 15 เมนูที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมวิธีการทำที่ง่ายและส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีประโยชน์ เพื่อให้คุณได้รับทั้งความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพในจานเดียว
อาหารสมุนไพรไทย คืออะไร
อาหารสมุนไพรไทย คือ อาหารที่ผสมผสานเครื่องเทศและพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยาเข้าไปในการปรุง เป็นการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาสู่การกิน ทำให้อาหารแต่ละจานมีทั้งคุณค่าทางโภชนาการและสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสุขภาพ
หลักการสำคัญของอาหารสมุนไพรไทยคือความสมดุลของรสชาติและคุณสมบัติ โดยเชื่อว่าอาหารสามารถเป็นยาได้ หากเลือกใช้สมุนไพรและวิธีการปรุงที่เหมาะสม สมุนไพรที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพืชที่มีน้ำมันหอมระเหย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบ
การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ลดการพึ่งพายาเคมี และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอย่างยั่งยืน
ประโยชน์ของสมุนไพรไทย มีอะไรบ้าง [H2]
สมุนไพรไทยมีประโยชน์หลากหลายที่สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สมุนไพรไทยอุดมไปด้วยสารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น กะเพราที่มีสารโอเรียนทิน (Orientin) ช่วยลดการติดเชื้อของเซลล์ ขิงที่มีสารจินเจอรอล (Gingerol) ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย กระเทียมและหอมแดงที่มีสารอัลลิซิน (Allicin) และเควอซิติน (Quercetin) ช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกาย การบริโภคสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
- ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย สมุนไพรไทยมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซีจากมะนาว เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) จากพริก แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) จากสะเดา และเคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้น สารเหล่านี้ช่วยต้านการทำลายเซลล์ ลดการอักเสบ และชะลอกระบวนการชรา ทำให้ผิวพรรณสดใส อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดี และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ
- ช่วยย่อยอาหารและบำรุงระบบทางเดินอาหาร สมุนไพรเช่น ข่า ตะไคร้ พริกไทย และขิง มีคุณสมบัติช่วยการย่อยอาหาร กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ขับลมในท้อง และลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การใช้สมุนไพรในการปรุงอาหารจะช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดปัญหากรดไหลย้อน และช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรียดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สมุนไพรบางชนิด เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย และใบเสม็ดขาว มีสารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้การเผาผลาญน้ำตาลมีประสิทธิภาพดีขึ้น
- บำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด สมุนไพรไทยหลายชนิดช่วยบำรุงหัวใจ เช่น กระเทียมช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ขิงช่วยลดการแข็งตัวของเลือด พริกที่มีแคปไซซิน (Capsaicin) ช่วยขยายหลอดเลือด การบริโภคเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด และทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง
สมุนไพรไทยยอดนิยมในการปรุงอาหารมีอะไรบ้าง [H2]
สมุนไพรไทยที่นิยมใช้ในการปรุงอาหารมากที่สุด ได้แก่ กะเพรา ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและช่วยขับเหงื่อ โหระพา ที่มีรสหวานอ่อนช่วยย่อยอาหาร ตะไคร้ ให้กลิ่นหอมสดชื่น ข่า และ ขิง ที่ช่วยแก้ท้องอืดและคลื่นไส้
พริกทุกชนิด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ มีสารต้านเชื้อโรค ใบมะกรูด ให้กลิ่นหอมซิทรัส พริกไทย ช่วยดูดซึมสารอาหาร ผักชี ช่วยขับพิษ และมะนาว อุดมด้วยวิตามินซี
10 เมนูอาหารสมุนไพรไทยเสริมภูมิคุ้มกันมีอะไรบ้าง
อาหารไทยที่ผสมผสานสมุนไพรพื้นบ้านไม่เพียงแต่อร่อยและหอมหวาน แต่ยังเป็นการรวมเอาสรรพคุณทางยามาไว้ในทุกจาน สมุนไพรไทยเช่น กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ข่า ขิง และพริก ล้วนมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำจึงเป็นวิธีธรรมชาติในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ต้มข่าไก่

ส่วนประกอบ:
- เนื้อไก่หั่นชิ้น 300 กรัม
- ข่าหั่นแว่น 20 กรัม
- ตะไคร้ทุบ 10 กรัม
- ใบมะกรูด 10 ใบ
- เห็ดฟาง 100 กรัม
- กะทิหางและหัว 400 มล.
- มะเขือเทศ 50 กรัม
- พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชี สำหรับตกแต่ง
- อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา
วิธีทำ:
- ตั้งหม้อใส่หางกะทิบนไฟกลาง ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป
- พอเดือดใส่เห็ดและเนื้อไก่ลงต้ม 1-2 นาที
- พอเดือดอีกครั้ง ใส่หัวกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา อายิโนะโมะโต๊ะ น้ำตาล คนให้เข้ากัน
- ใส่พริกขี้หนูบุบ ปิดไฟ ยกลง
- ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อม
- ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ
ต้มข่าไก่อุดมไปด้วยสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ ข่ามีสารแกลังกาลต้านอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกัน ตะไคร้มีซิทรัลช่วยขับลมและต้านเชื้อ ใบมะกรูดมีซิโทรเนลลอลบำรุงหัวใจและช่วยย่อย พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ และน้ำมะนาวให้วิตามินซีสูง
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มข่าไก่
2. น้ำพริกอ่อง

ส่วนประกอบ:
- หมูสับ 200 กรัม
- มะเขือเทศ 100 กรัม
- พริกแห้ง 15 กรัม
- กระเทียม 30 กรัม
- หอมแดง 30 กรัม
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา
วิธีทำ:
- โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง กะปิให้ละเอียด
- ผัดน้ำพริกที่โขลกไว้ให้หอม ใส่หมูสับลงผัดจนสุก
- ใส่มะเขือเทศสับลงไป ผัดต่อจนมะเขือเทศนุ่ม
- ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา อายิโนะโมะโต๊ะ
- คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนข้นได้ที่
- ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับผักสดและแคบหมู
น้ำพริกอ่องเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยสมุนไพร ได้แก่ พริกแห้งมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ ขมิ้นมีเคอร์คูมินต้านอนุมูลอิสระและป้องกันมะเร็ง มะเขือเทศให้ไลโคปีนบำรุงผิว และถั่วลิสงให้โปรตีนบำรุงสมอง
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/น้ำพริกอ่อง
3. ยำวุ้นเส้น

ส่วนประกอบ:
- กุ้งแกะเปลือกไว้หาง 45 กรัม
- หมูบด 45 กรัม
- หมูยอหั่นแว่น 45 กรัม
- ปลาหมึกหั่นแว่น 45 กรัม
- วุ้นเส้นแช่น้ำจนนิ่ม 45 กรัม
- หอมใหญ่หั่นเส้น 120 กรัม
- พริกขี้หนูบุบ 60 กรัม
- น้ำปลา 10 กรัม
- น้ำมะนาว 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
- ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 15 กรัม
- มะเขือเทศหั่นเสี้ยว 120 กรัม
- อายิโนะโมะโต๊ะ 3 กรัม
วิธีทำ:
- ลวกวุ้นเส้นในน้ำเดือด รอให้น้ำเดือดซ้ำ คนอีกครั้ง ยกลง
- ตั้งน้ำใหม่ ลวกหมูยอจนสุก ตักขึ้น
- ลวกกุ้ง-ปลาหมึก 30 วินาที (ให้เด้ง) ตักขึ้น
- รวนหมูสับให้สุก
- ใส่ทุกอย่างในชามผสม: วุ้นเส้น + ของสดที่ลวก + ผัก + น้ำยำ
- คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟ
ยำวุ้นเส้นเป็นเมนูไทยที่อุดมไปด้วยสมุนไพรและผัก ได้แก่ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญและเสริมภูมิคุ้มกัน กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอลและต้านเชื้อ น้ำมะนาวให้วิตามินซีสูงช่วยเสริมภูมิต้านทาน ขึ้นฉ่ายช่วยขับลมและแก้ท้องอืด หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ วุ้นเส้นให้เส้นใยช่วยระบบขับถ่าย
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำวุ้นเส้น
4. แกงเลียง

ส่วนประกอบ:
- กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลังทิ้งหาง 100 กรัม
- กุ้งแห้ง 10 กรัม
- หอมแดงซอย ¼ ถ้วยยอง
- กระชาย 1 แง่ง
- กะปิ 1 ช้อนชา
- พริกไทยเม็ด ¼ ช้อนชา
- น้ำสะอาด 1 ½ ถ้วยยอง
- ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 50 กรัม
- ฟักทองหั่นชิ้นใหญ่ 80 กรัม
- บวบหั่นและลบขี้หงอคำ 60 กรัม
- เห็ดออรินจิหั่นเตี้มเล็กพอคำ 50 กรัม
- ตำลึง 1 ถ้วยยอง
- ใบแมงลัก ½ ถ้วยยอง
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
- อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา
วิธีทำ:
- โขลกกุ้งแห้ง หอมแดง กระชายให้ละเอียด
- ต้มน้ำให้เดือด ใส่ข้าวโพดอ่อนและฟักทอง ต้มจนสุก
- ใส่กะปิ พริกไทยโขลกรวมกันให้ละเอียด
- ใส่บวบ เห็ดออรินจิลงไปคนผสม เคี่ยวจนนุ่ม
- ใส่น้ำแกงลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี อายิโนะโมะโต๊ะ
- ใส่กุ้งสด ตำลึง ใบแมงลัก พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ
แกงเลียงเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยผักและสมุนไพร ได้แก่ กะปิให้โปรตีนและแคลเซียมบำรุงกระดูก พริกไทยมีไพเพอรีนเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล ผักบุ้ง ฟักทอง ชะอมให้เส้นใยและวิตามินบำรุงสายตา กุ้งให้โปรตีนและโอเมก้า 3 บำรุงสมอง และน้ำมะขามเปียกให้วิตามินซีช่วยย่อย
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเลียงกุ้งสด
5. ต้มโคล้งปลากรอบ

ส่วนประกอบ:
- ปลากดกรอบ หรือปลาแห้งชนิดอื่น (ใช้เฉพาะตัว) 100 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม
- พริกแห้ง 10 กรัม
- ข่า 20 กรัม
- ใบมะกรูด 20 กรัม
- มะเขือเทศ 50 กรัม
- ตะไคร้ 30 กรัม
- ผักชีฝรั่ง 30 กรัม
- เห็ดนางฟ้า 100 กรัม
- น้ำมัน 5 กรัม
- น้ำสะอาด 500 กรัม
- น้ำมะนาว ตามชอบ
- รสดีซุปก้อน รสต้มยำ 1 ก้อน 12 กรัม
วิธีทำ:
- จัดเตรียมวัตถุดิบทุกชนิด แกะหัวปลาออก (หรือนำไปตำผัดด้วยก็ได้)
- ผัดเครื่องสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง หอมแดง ด้วยไฟอ่อน เติมน้ำมันเล็กน้อย ผัดจนหอม แล้วเติมน้ำลงไปจนท่วม
- เมื่อน้ำเดือด ใส่รสดีซุปก้อน รสต้มยำ เคี่ยวจนละลาย ตามด้วยเห็ดนางฟ้า ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพา ต้มจนเดือด
- เตรียมปลากรอบขูดผิวไหม้เกรียมทิ้ง ฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นพอคำ
- เบาไฟอ่อน โรยใบกะเพรา กดให้จมเล็กน้อย ปิดไฟ ชิมรส ปรุงรสด้วยน้ำปลา บีบมะนาว ใส่พริกแห้งตำ (ถ้าชอบ) แล้วใส่เนื้อปลาแห้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ต้มโคล้งปลากรอบเป็นเมนูที่อุดมสมุนไพร ได้แก่ ขมิ้นมีเคอร์คูมินต้านอักเสบและป้องกันมะเร็ง ข่ามีแกลังกาลแก้ท้องอืด ตะไคร้มีซิทรัลขับลมและต้านเชื้อ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล ใบสะระแหน่แก้คลื่นไส้ และปลาให้โปรตีนและโอเมก้า 3 บำรุงสมอง
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มโคล้งปลากระชายกรอบ
6. ส้มตำไทย

ส่วนประกอบ:
- มะละกอดิบขูดเส้น 100 กรัม
- แครอทขูดเส้น 20 กรัม
- กระเทียมไทย 5 กลีบ
- พริกขี้หนู 1 เม็ด
- มะเขือเทศเล็กดิ๊ดด๊า 1 ลูก
- ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
- น้ำปลา (low sodium) 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ
- อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส ¼ ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ
- กุ้งแห้ง 4 กรัม
- ถั่วลิสง 20 ไส้กระเทียม พริกขี้หนูบดแดดกรัม
วิธีทำ:
- เตรียมวัตถุดิบ ล้างผักให้สะอาด ขูดมะละกอเป็นเส้น ผ่าครึ่งมะเขือเทศ หั่นถั่วฝักยาว
- เตรียมเครื่องปรุง น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส น้ำมะนาว
- ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงครก ตำให้พอแตก
- ใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาว ตำเบาๆ ให้พอช้ำ จากนั้นปรุงรสด้วย อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว คลุกเคล้า ใส่กุ้งแห้ง
- ใส่มะละกอขูดลงไปเป็นอย่างสุดท้าย เคล้าให้เข้ากันเบาๆ
- ตักใส่จาน โรยด้วยถั่วลิสงคั่ว พร้อมเสิร์ฟ
ส้มตำอุดมไปด้วยสมุนไพรและผัก ได้แก่ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล น้ำมะนาวให้วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน มะเขือเทศให้ไลโคปีนบำรุงผิว มะละกอดิบให้เอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีน และถั่วฝักยาวให้เส้นใยช่วยระบบขับถ่าย
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ส้มตำไทย
7. ยำตะไคร้

ส่วนประกอบ:
- กุ้งสด 10 ตัวใหญ่ๆ 300 กรัม
- ตะไคร้ 80 กรัม
- ใบมะกรูด 20 กรัม
- พริกขี้หนูรับคำแดง 20 กรัม
- ใบมะระแห่ง 10 กรัม
- ถั่วลิสงตัว 20 กรัม
- หอมแดงซอย 80 กรัม
- มะนาว 20 กรัม
- น้ำมะนาว 15 กรัม
- อายิโนะโมะโต๊ะ 2 กรัม
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
วิธีทำ:
- นำกุ้งผ่าหลังเอาเส้นดำออก จากนั้นนำไปลวกในน้ำเดือดจนสุก และนำมาแช่น้ำเย็น
- ซอยตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูจินดาแดง หอมแดง พักไว้เตรียมคลุกเคล้า
- ผสมน้ำยำด้วยการใส่ น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว อายิโนะโมะโต๊ะ
- นำเครื่องผักสมุนไพร พร้อมถั่วลิสง และกุ้งลวก คลุกลงในน้ำยำ ตักเสิร์ฟ
ยำตะไคร้เป็นเมนูสมุนไพรที่มีประโยชน์สูง ได้แก่ ตะไคร้มีซิทรัลช่วยขับลม ต้านเชื้อและลดความดัน พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล น้ำมะนาวให้วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ ใบมะกรูดมีซิโทรเนลลอลบำรุงหัวใจ และขึ้นฉ่ายช่วยแก้ท้องอืด
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำตะไคร้หอมกุ้ง
8. ต้มยำกุ้งรวมเห็ด

ส่วนประกอบ:
- เห็ดนางฟ้า 30 กรัม
- เห็ดออรินจิ 30 กรัม (อายิโนะโมะโต๊ะ ½ ช้อนชา)
- ตะไคร้ 2 ต้น
- ข่า 5 แว่น
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- กุ้ง ½ ช้อนชา
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดฟาง 60 กรัม
- พริกขี้หนู 30 กรัม
- เห็ดเข็มทอง 30 กรัม
- ผักชีฝรั่ง 5 ต้น
- น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ:
- บุบตะไคร้หั่นเป็นท่อน หั่นข่าเป็นแว่น ขยำใบมะกรูด ใส่ลงในหม้อที่ใส่น้ำไว้แล้ว ต้มให้เดือด จากนั้นตักขึ้นพักไว้
- เมื่อน้ำเดือด ใส่กุ้งสดและเห็ดทั้งหมดลงไปต้ม รอจนเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและอายิโนะโมะโต๊ะ
- รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่น้ำมะนาวแล้วปิดไฟ
- หั่นผักชีฝรั่ง บุบพริกขี้หนู ใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
ต้มยำกุ้งอุดมไปด้วยสมุนไพรไทย ตะไคร้ มีสารซิตรัลช่วยต้านอักเสบและลดไข้ ข่า มีสารแกลงกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและแก้วิงเวียน ใบมะกรูด อุดมด้วยน้ำมันหอมระเหยช่วยผ่อนคลายและต้านเชื้อแบคทีเรีย พริก มีแคปไซซินช่วยเพิ่มการเผาผลาญ มะนาว ให้วิตามินซีสูงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มยำกุ้งรวมเห็ด
9. ลาบเห็ด

ส่วนประกอบ:
- เห็ดออรินจิจากกลี 200 กรัม
- รสดีเมนู ลาบ-น้ำตก 1 ซอง
- น้ำอุ่น 3 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- หอมแดงซอย 1 หัว
- ผักชีใบเลื่อย 1 ต้น
- ใบสะระแหน่สำหรับโรยหน้า ตามชอบ
- น้ำสะอาด (สำหรับลวกเห็ด) 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ:
- ต้มน้ำสะอาดพอเดือด นำเห็ดทุกชนิดลงลวก พอสุกตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
- ผสมรสดีเมนู ลาบ-น้ำตก กับน้ำอุ่น คนพอเข้ากัน
- ใส่เห็ดลวกในข้อที่ 1 ใส่ต้นหอม หอมแดง ผักชีใบเลื่อย ใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้ทั่ว จัดเสิร์ฟ
ลาบเห็ดมีสมุนไพรหลากหลาย ต้นหอม และหอมแดง อุดมด้วยสารแอลลิซินช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ ผักชีใบเลื่อย (ผักชีฝรั่ง) มีวิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูกและมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ใบสะระแหน่ มีเมนทอลช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อและระงับกลิ่นปาก พริก เพิ่มการไหลเวียนโลหิตและช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยระบบย่อย ดีท็อกซ์ร่างกาย และลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ลาบเห็ด
10. แกงเขียวหวานไก่

ส่วนประกอบ:
- หัวกะทิ 90 มิลลิลิตร
- พริกแกงเขียวหวาน 45 กรัม
- ไก่ไก่ 120 กรัม
- หางกะทิ (เจ้าหกะทิสละอนม่า) 150 มิลลิลิตร
- น้ำปลา 5 กรัม
- น้ำตาลปี๊บ 15 กรัม
- รสดี รสไก่ 1 กรัม
- ใบมะกรูด 6 ใบ
- มะเขือเปราะ 300 กรัม
- มะเขือพวง 30 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดง 15 กรัม
- ใบโหระพา 10 กรัม
วิธีทำ:
- นำหัวกะทิเทลงกระทะ รอจนกะทิเดือด แล้วจึงใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้แตกมัน
- ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้เข้ากับพริกแกง จนเนื้อไก่พอสุก
- เติมหางกะทิลงไป รอจนกะทิเดือด
- ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และรสดี รสไก่ คนให้ละลายเข้ากัน
- ใส่ใบมะกรูด มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป รอจนแกงเขียวหวานไก่เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
- ใส่พริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพาลงไป คนแกงเขียวหวานไก่ให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
แกงเขียวหวานใช้สมุนไพร ใบมะกรูด มีน้ำมันหอมระเหยช่วยลดความเครียดและต้านแบคทีเรียในช่องปาก ใบโหระพา มีสารยูจีนอลช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง พริกแกง ประกอบด้วยตะไคร้ ข่า กระชาย ช่วยระบบย่อยและต้านเชื้อโรค พริกชี้ฟ้า มีวิตามินเอและซีสูง ช่วยลดการอักเสบ บำรุงผิวพรรณ เสริมภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหาร
ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเขียวหวานไก่-2
เคล็ดลับการเลือกและเตรียมสมุนไพรมีอะไรบ้าง
การเลือกสมุนไพรสด ควรเลือกใบที่เขียวสด ไม่เหี่ยวแฉะ มีกลิ่นหอมชัด การเก็บรักษาควรล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แช่น้ำแข็งหรือแช่แข็ง ควรล้างก่อนใช้ทุกครั้ง หั่นหรือโขลกตามความเหมาะสม
การใช้สมุนไพรแห้ง ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ส่วนการปรุงรส เริ่มใส่น้อยแล้วค่อยเพิ่ม ชิมรสเป็นระยะ เวลาใส่สมุนไพรหอมควรใส่ขั้นตอนท้าย ๆ ส่วนสมุนไพรแกงควรใส่แรก ๆ
ข้อควรระวังในการบริโภคอาหารสมุนไพรมีอะไรบ้าง
ผู้ที่แพ้อาหารควรระวังสมุนไพรที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น กุ้งแห้ง ถั่ว สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงสมุนไพรบางชนิด เช่น ดีปลี กะเพรา และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคสมุนไพรในปริมาณมาก
กินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรกินมากเกินไป สำหรับการทำความสะอาดนั้น ให้ล้างสมุนไพรให้สะอาดก่อนใช้ และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
อาหารสมุนไพรไทยคือการผสมผสานระหว่างความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างลงตัว การบริโภคอาหารที่มีสมุนไพรเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ป้องกันโรค และบำรุงร่างกายให้แข็งแรง
เมนูสมุนไพร 10 อย่างที่แนะนำล้วนเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย ทำเองก็ไม่ยาก และมีสมุนไพรที่ให้ประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ หรือช่วยย่อยอาหาร
อาหารเป็นยา ยาเป็นอาหาร คือหลักการสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีไปตลอดชีวิต ด้วยเมนูสมุนไพรที่อร่อยและมีประโยชน์จากธรรมชาติ
Reference:
- https://www.hfocus.org/content/2018/01/15250
- https://www.scb.co.th/th/personal-banking/stories/tips-for-you/thai-food
- https://ttmic.co.th/โครงการ/ร้านอาหารสมุนไพร/เมนูอาหารสมุนไพร/
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มข่าไก่
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/น้ำพริกอ่อง
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำวุ้นเส้น
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเลียงกุ้งสด
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มโคล้งปลากระชายกรอบ
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ส้มตำไทย
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำตะไคร้หอมกุ้ง
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มยำกุ้งรวมเห็ด
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ลาบเห็ด
- https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเขียวหวานไก่-2


