Ajinomoto Thailand

10 เมนูสมุนไพร อิ่มอร่อย และดีต่อสุขภาพจากธรรมชาติ

21/11/2025
eye
413
|

อาหารสมุนไพรไทยเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดมาหลายพันปี ผสมผสานความอร่อยเข้ากับการบำรุงสุขภาพอย่างลงตัว การใช้สมุนไพรในการปรุงอาหารไม่เพียงเพิ่มรสชาติที่หอมหวาน แต่ยังช่วยป้องกันโรคและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายอีกด้วย

อาหารที่มีสมุนไพรเป็นการรวมเอาคุณค่าทางโภชนาการเข้ากับสรรพคุณทางยา ทำให้ทุกมื้ออาหารกลายเป็นโอกาสในการบำรุงสุขภาพ สมุนไพรไทยเช่น กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ข่า ขิง ล้วนมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

บทความนี้นำเสนอเมนูสมุนไพร 15 เมนูที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมวิธีการทำที่ง่ายและส่วนประกอบของสมุนไพรที่มีประโยชน์ เพื่อให้คุณได้รับทั้งความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพในจานเดียว

อาหารสมุนไพรไทย คืออะไร

อาหารสมุนไพรไทย คือ อาหารที่ผสมผสานเครื่องเทศและพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณทางยาเข้าไปในการปรุง เป็นการประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยมาสู่การกิน ทำให้อาหารแต่ละจานมีทั้งคุณค่าทางโภชนาการและสมุนไพรที่ช่วยบำรุงสุขภาพ

หลักการสำคัญของอาหารสมุนไพรไทยคือความสมดุลของรสชาติและคุณสมบัติ โดยเชื่อว่าอาหารสามารถเป็นยาได้ หากเลือกใช้สมุนไพรและวิธีการปรุงที่เหมาะสม สมุนไพรที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นพืชที่มีน้ำมันหอมระเหย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารต้านการอักเสบ

การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ลดการพึ่งพายาเคมี และช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอย่างยั่งยืน

ประโยชน์ของสมุนไพรไทย มีอะไรบ้าง [H2]

สมุนไพรไทยมีประโยชน์หลากหลายที่สามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ดังนี้

  1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สมุนไพรไทยอุดมไปด้วยสารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น กะเพราที่มีสารโอเรียนทิน (Orientin) ช่วยลดการติดเชื้อของเซลล์ ขิงที่มีสารจินเจอรอล (Gingerol) ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย กระเทียมและหอมแดงที่มีสารอัลลิซิน (Allicin) และเควอซิติน (Quercetin) ช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ร่างกาย การบริโภคสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น
  2. ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย สมุนไพรไทยมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น วิตามินซีจากมะนาว เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) จากพริก แอนโทไซยานิน (Anthocyanin) จากสะเดา และเคอร์คูมิน (Curcumin) จากขมิ้น สารเหล่านี้ช่วยต้านการทำลายเซลล์ ลดการอักเสบ และชะลอกระบวนการชรา ทำให้ผิวพรรณสดใส อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดี และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ
  3. ช่วยย่อยอาหารและบำรุงระบบทางเดินอาหาร สมุนไพรเช่น ข่า ตะไคร้ พริกไทย และขิง มีคุณสมบัติช่วยการย่อยอาหาร กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ขับลมในท้อง และลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ การใช้สมุนไพรในการปรุงอาหารจะช่วยให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดปัญหากรดไหลย้อน และช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรียดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม
  4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สมุนไพรบางชนิด เช่น ขมิ้นชัน พริกไทย และใบเสม็ดขาว มีสารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไวต่ออินซูลิน การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้การเผาผลาญน้ำตาลมีประสิทธิภาพดีขึ้น
  5. บำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด สมุนไพรไทยหลายชนิดช่วยบำรุงหัวใจ เช่น กระเทียมช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต ขิงช่วยลดการแข็งตัวของเลือด พริกที่มีแคปไซซิน (Capsaicin) ช่วยขยายหลอดเลือด การบริโภคเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ปรับปรุงการไหลเวียนเลือด และทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง

สมุนไพรไทยยอดนิยมในการปรุงอาหารมีอะไรบ้าง [H2]

สมุนไพรไทยที่นิยมใช้ในการปรุงอาหารมากที่สุด ได้แก่ กะเพรา ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและช่วยขับเหงื่อ โหระพา ที่มีรสหวานอ่อนช่วยย่อยอาหาร ตะไคร้ ให้กลิ่นหอมสดชื่น ข่า และ ขิง ที่ช่วยแก้ท้องอืดและคลื่นไส้

พริกทุกชนิด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญ กระเทียม หอมแดง หอมหัวใหญ่ มีสารต้านเชื้อโรค ใบมะกรูด ให้กลิ่นหอมซิทรัส พริกไทย ช่วยดูดซึมสารอาหาร ผักชี ช่วยขับพิษ และมะนาว อุดมด้วยวิตามินซี

10 เมนูอาหารสมุนไพรไทยเสริมภูมิคุ้มกันมีอะไรบ้าง

อาหารไทยที่ผสมผสานสมุนไพรพื้นบ้านไม่เพียงแต่อร่อยและหอมหวาน แต่ยังเป็นการรวมเอาสรรพคุณทางยามาไว้ในทุกจาน สมุนไพรไทยเช่น กะเพรา โหระพา ตะไคร้ ข่า ขิง และพริก ล้วนมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การรับประทานอาหารที่มีสมุนไพรเหล่านี้เป็นประจำจึงเป็นวิธีธรรมชาติในการดูแลสุขภาพและป้องกันโรคต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ต้มข่าไก่

ต้มข่าไก่ อาหารสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • เนื้อไก่หั่นชิ้น 300 กรัม
  • ข่าหั่นแว่น 20 กรัม
  • ตะไคร้ทุบ 10 กรัม
  • ใบมะกรูด 10 ใบ
  • เห็ดฟาง 100 กรัม
  • กะทิหางและหัว 400 มล.
  • มะเขือเทศ 50 กรัม
  • พริกขี้หนูบุบ 10 เม็ด
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผักชี สำหรับตกแต่ง
  • อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. ตั้งหม้อใส่หางกะทิบนไฟกลาง ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป
  2. พอเดือดใส่เห็ดและเนื้อไก่ลงต้ม 1-2 นาที
  3. พอเดือดอีกครั้ง ใส่หัวกะทิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา อายิโนะโมะโต๊ะ น้ำตาล คนให้เข้ากัน
  4. ใส่พริกขี้หนูบุบ ปิดไฟ ยกลง
  5. ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน เค็ม กลมกล่อม
  6. ตักใส่ถ้วย ตกแต่งด้วยผักชี เสิร์ฟร้อนๆ

ต้มข่าไก่อุดมไปด้วยสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่ ข่ามีสารแกลังกาลต้านอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกัน ตะไคร้มีซิทรัลช่วยขับลมและต้านเชื้อ ใบมะกรูดมีซิโทรเนลลอลบำรุงหัวใจและช่วยย่อย พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ และน้ำมะนาวให้วิตามินซีสูง

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มข่าไก่

2. น้ำพริกอ่อง

น้ำพริกอ่อง อาหารสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • หมูสับ 200 กรัม
  • มะเขือเทศ 100 กรัม
  • พริกแห้ง 15 กรัม
  • กระเทียม 30 กรัม
  • หอมแดง 30 กรัม
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. โขลกพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง กะปิให้ละเอียด
  2. ผัดน้ำพริกที่โขลกไว้ให้หอม ใส่หมูสับลงผัดจนสุก
  3. ใส่มะเขือเทศสับลงไป ผัดต่อจนมะเขือเทศนุ่ม
  4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาล น้ำปลา อายิโนะโมะโต๊ะ
  5. คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนข้นได้ที่
  6. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟกับผักสดและแคบหมู

น้ำพริกอ่องเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยสมุนไพร ได้แก่ พริกแห้งมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ ขมิ้นมีเคอร์คูมินต้านอนุมูลอิสระและป้องกันมะเร็ง มะเขือเทศให้ไลโคปีนบำรุงผิว และถั่วลิสงให้โปรตีนบำรุงสมอง

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/น้ำพริกอ่อง

3. ยำวุ้นเส้น

ยำวุ้นเส้น สมุนไพรไทย อาหารสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • กุ้งแกะเปลือกไว้หาง 45 กรัม
  • หมูบด 45 กรัม
  • หมูยอหั่นแว่น 45 กรัม
  • ปลาหมึกหั่นแว่น 45 กรัม
  • วุ้นเส้นแช่น้ำจนนิ่ม 45 กรัม
  • หอมใหญ่หั่นเส้น 120 กรัม
  • พริกขี้หนูบุบ 60 กรัม
  • น้ำปลา 10 กรัม
  • น้ำมะนาว 30 กรัม
  • น้ำตาลทราย 15 กรัม
  • ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 15 กรัม
  • มะเขือเทศหั่นเสี้ยว 120 กรัม
  • อายิโนะโมะโต๊ะ 3 กรัม

วิธีทำ:

  1. ลวกวุ้นเส้นในน้ำเดือด รอให้น้ำเดือดซ้ำ คนอีกครั้ง ยกลง
  2. ตั้งน้ำใหม่ ลวกหมูยอจนสุก ตักขึ้น
  3. ลวกกุ้ง-ปลาหมึก 30 วินาที (ให้เด้ง) ตักขึ้น
  4. รวนหมูสับให้สุก
  5. ใส่ทุกอย่างในชามผสม: วุ้นเส้น + ของสดที่ลวก + ผัก + น้ำยำ
  6. คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟ

ยำวุ้นเส้นเป็นเมนูไทยที่อุดมไปด้วยสมุนไพรและผัก ได้แก่ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญและเสริมภูมิคุ้มกัน กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอลและต้านเชื้อ น้ำมะนาวให้วิตามินซีสูงช่วยเสริมภูมิต้านทาน ขึ้นฉ่ายช่วยขับลมและแก้ท้องอืด หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ วุ้นเส้นให้เส้นใยช่วยระบบขับถ่าย

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำวุ้นเส้น

4. แกงเลียง

แกงเลียง ผักสมุนไพรรวม เมนูสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลังทิ้งหาง 100 กรัม
  • กุ้งแห้ง 10 กรัม
  • หอมแดงซอย ¼ ถ้วยยอง
  • กระชาย 1 แง่ง
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • พริกไทยเม็ด ¼ ช้อนชา
  • น้ำสะอาด 1 ½ ถ้วยยอง
  • ข้าวโพดอ่อนหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว 50 กรัม
  • ฟักทองหั่นชิ้นใหญ่ 80 กรัม
  • บวบหั่นและลบขี้หงอคำ 60 กรัม
  • เห็ดออรินจิหั่นเตี้มเล็กพอคำ 50 กรัม
  • ตำลึง 1 ถ้วยยอง
  • ใบแมงลัก ½ ถ้วยยอง
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
  • อายิโนะโมะโต๊ะ ¼ ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. โขลกกุ้งแห้ง หอมแดง กระชายให้ละเอียด
  2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่ข้าวโพดอ่อนและฟักทอง ต้มจนสุก
  3. ใส่กะปิ พริกไทยโขลกรวมกันให้ละเอียด
  4. ใส่บวบ เห็ดออรินจิลงไปคนผสม เคี่ยวจนนุ่ม
  5. ใส่น้ำแกงลงในหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี อายิโนะโมะโต๊ะ
  6. ใส่กุ้งสด ตำลึง ใบแมงลัก พอเดือดอีกครั้งปิดไฟ

แกงเลียงเป็นเมนูที่อุดมไปด้วยผักและสมุนไพร ได้แก่ กะปิให้โปรตีนและแคลเซียมบำรุงกระดูก พริกไทยมีไพเพอรีนเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล ผักบุ้ง ฟักทอง ชะอมให้เส้นใยและวิตามินบำรุงสายตา กุ้งให้โปรตีนและโอเมก้า 3 บำรุงสมอง และน้ำมะขามเปียกให้วิตามินซีช่วยย่อย

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเลียงกุ้งสด

5. ต้มโคล้งปลากรอบ

ต้มโคล้งปลากรอบ สมุนไพรไทย เมนูสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • ปลากดกรอบ หรือปลาแห้งชนิดอื่น (ใช้เฉพาะตัว) 100 กรัม
  • หอมแดง 50 กรัม
  • พริกแห้ง 10 กรัม
  • ข่า 20 กรัม
  • ใบมะกรูด 20 กรัม
  • มะเขือเทศ 50 กรัม
  • ตะไคร้ 30 กรัม
  • ผักชีฝรั่ง 30 กรัม
  • เห็ดนางฟ้า 100 กรัม
  • น้ำมัน 5 กรัม
  • น้ำสะอาด 500 กรัม
  • น้ำมะนาว ตามชอบ
  • รสดีซุปก้อน รสต้มยำ 1 ก้อน 12 กรัม

วิธีทำ:

  1. จัดเตรียมวัตถุดิบทุกชนิด แกะหัวปลาออก (หรือนำไปตำผัดด้วยก็ได้)
  2. ผัดเครื่องสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง หอมแดง ด้วยไฟอ่อน เติมน้ำมันเล็กน้อย ผัดจนหอม แล้วเติมน้ำลงไปจนท่วม
  3. เมื่อน้ำเดือด ใส่รสดีซุปก้อน รสต้มยำ เคี่ยวจนละลาย ตามด้วยเห็ดนางฟ้า ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพา ต้มจนเดือด
  4. เตรียมปลากรอบขูดผิวไหม้เกรียมทิ้ง ฉีกหรือหั่นเป็นชิ้นพอคำ
  5. เบาไฟอ่อน โรยใบกะเพรา กดให้จมเล็กน้อย ปิดไฟ ชิมรส ปรุงรสด้วยน้ำปลา บีบมะนาว ใส่พริกแห้งตำ (ถ้าชอบ) แล้วใส่เนื้อปลาแห้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ต้มโคล้งปลากรอบเป็นเมนูที่อุดมสมุนไพร ได้แก่ ขมิ้นมีเคอร์คูมินต้านอักเสบและป้องกันมะเร็ง ข่ามีแกลังกาลแก้ท้องอืด ตะไคร้มีซิทรัลขับลมและต้านเชื้อ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล ใบสะระแหน่แก้คลื่นไส้ และปลาให้โปรตีนและโอเมก้า 3 บำรุงสมอง

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มโคล้งปลากระชายกรอบ

6. ส้มตำไทย

ส้มตำไทย พริก กระเทียม มะนาว เมนูสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • มะละกอดิบขูดเส้น 100 กรัม
  • แครอทขูดเส้น 20 กรัม
  • กระเทียมไทย 5 กลีบ
  • พริกขี้หนู 1 เม็ด
  • มะเขือเทศเล็กดิ๊ดด๊า 1 ลูก
  • ถั่วฝักยาว 1 ฝัก
  • น้ำปลา (low sodium) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ
  • อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส ¼ ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 1½ ช้อนโต๊ะ
  • กุ้งแห้ง 4 กรัม
  • ถั่วลิสง 20 ไส้กระเทียม พริกขี้หนูบดแดดกรัม

วิธีทำ:

  1. เตรียมวัตถุดิบ ล้างผักให้สะอาด ขูดมะละกอเป็นเส้น ผ่าครึ่งมะเขือเทศ หั่นถั่วฝักยาว
  2. เตรียมเครื่องปรุง น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส น้ำมะนาว
  3. ใส่กระเทียมและพริกขี้หนูลงครก ตำให้พอแตก
  4. ใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาว ตำเบาๆ ให้พอช้ำ จากนั้นปรุงรสด้วย อายิโนะโมะโต๊ะ พลัส น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว คลุกเคล้า ใส่กุ้งแห้ง
  5. ใส่มะละกอขูดลงไปเป็นอย่างสุดท้าย เคล้าให้เข้ากันเบาๆ
  6. ตักใส่จาน โรยด้วยถั่วลิสงคั่ว พร้อมเสิร์ฟ

ส้มตำอุดมไปด้วยสมุนไพรและผัก ได้แก่ พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล น้ำมะนาวให้วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน มะเขือเทศให้ไลโคปีนบำรุงผิว มะละกอดิบให้เอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีน และถั่วฝักยาวให้เส้นใยช่วยระบบขับถ่าย

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ส้มตำไทย

7. ยำตะไคร้

ยำตะไคร้ ตะไคร้อ่อน อาหารที่มีสมุนไพร

ส่วนประกอบ:

  • กุ้งสด 10 ตัวใหญ่ๆ 300 กรัม
  • ตะไคร้ 80 กรัม
  • ใบมะกรูด 20 กรัม
  • พริกขี้หนูรับคำแดง 20 กรัม
  • ใบมะระแห่ง 10 กรัม
  • ถั่วลิสงตัว 20 กรัม
  • หอมแดงซอย 80 กรัม
  • มะนาว 20 กรัม
  • น้ำมะนาว 15 กรัม
  • อายิโนะโมะโต๊ะ 2 กรัม
  • น้ำตาลทราย 15 กรัม

วิธีทำ:

  1. นำกุ้งผ่าหลังเอาเส้นดำออก จากนั้นนำไปลวกในน้ำเดือดจนสุก และนำมาแช่น้ำเย็น
  2. ซอยตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูจินดาแดง หอมแดง พักไว้เตรียมคลุกเคล้า
  3. ผสมน้ำยำด้วยการใส่ น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมะนาว อายิโนะโมะโต๊ะ
  4. นำเครื่องผักสมุนไพร พร้อมถั่วลิสง และกุ้งลวก คลุกลงในน้ำยำ ตักเสิร์ฟ

ยำตะไคร้เป็นเมนูสมุนไพรที่มีประโยชน์สูง ได้แก่ ตะไคร้มีซิทรัลช่วยขับลม ต้านเชื้อและลดความดัน พริกขี้หนูมีแคปไซซินกระตุ้นเผาผลาญ กระเทียมมีอัลลิซินลดคอเลสเตอรอล น้ำมะนาวให้วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกัน หอมแดงมีควอซิตินต้านอักเสบ ใบมะกรูดมีซิโทรเนลลอลบำรุงหัวใจ และขึ้นฉ่ายช่วยแก้ท้องอืด

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม: https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ยำตะไคร้หอมกุ้ง

8. ต้มยำกุ้งรวมเห็ด

เมนูสมุนไพร ต้มยำกุ้งรวมเห็ด

ส่วนประกอบ:

  • เห็ดนางฟ้า 30 กรัม
  • เห็ดออรินจิ 30 กรัม (อายิโนะโมะโต๊ะ ½ ช้อนชา)
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ข่า 5 แว่น
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • กุ้ง ½ ช้อนชา
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • เห็ดฟาง 60 กรัม
  • พริกขี้หนู 30 กรัม
  • เห็ดเข็มทอง 30 กรัม
  • ผักชีฝรั่ง 5 ต้น
  • น้ำสะอาด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ:

  1. บุบตะไคร้หั่นเป็นท่อน หั่นข่าเป็นแว่น ขยำใบมะกรูด ใส่ลงในหม้อที่ใส่น้ำไว้แล้ว ต้มให้เดือด จากนั้นตักขึ้นพักไว้
  2. เมื่อน้ำเดือด ใส่กุ้งสดและเห็ดทั้งหมดลงไปต้ม รอจนเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและอายิโนะโมะโต๊ะ
  3. รอให้เดือดอีกครั้ง ใส่น้ำมะนาวแล้วปิดไฟ
  4. หั่นผักชีฝรั่ง บุบพริกขี้หนู ใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ

ต้มยำกุ้งอุดมไปด้วยสมุนไพรไทย ตะไคร้ มีสารซิตรัลช่วยต้านอักเสบและลดไข้ ข่า มีสารแกลงกินช่วยบรรเทาอาการปวดท้องและแก้วิงเวียน ใบมะกรูด อุดมด้วยน้ำมันหอมระเหยช่วยผ่อนคลายและต้านเชื้อแบคทีเรีย พริก มีแคปไซซินช่วยเพิ่มการเผาผลาญ มะนาว ให้วิตามินซีสูงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องอืด และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม:  https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ต้มยำกุ้งรวมเห็ด

9. ลาบเห็ด

เมนูสมุนไพร ลาบเห็ด

ส่วนประกอบ:

  • เห็ดออรินจิจากกลี 200 กรัม
  • รสดีเมนู ลาบ-น้ำตก 1 ซอง
  • น้ำอุ่น 3 ช้อนโต๊ะ
  • ต้นหอมซอย 1 ต้น
  • หอมแดงซอย 1 หัว
  • ผักชีใบเลื่อย 1 ต้น
  • ใบสะระแหน่สำหรับโรยหน้า ตามชอบ
  • น้ำสะอาด (สำหรับลวกเห็ด) 2 ถ้วยตวง

วิธีทำ:

  1. ต้มน้ำสะอาดพอเดือด นำเห็ดทุกชนิดลงลวก พอสุกตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
  2. ผสมรสดีเมนู ลาบ-น้ำตก กับน้ำอุ่น คนพอเข้ากัน
  3. ใส่เห็ดลวกในข้อที่ 1 ใส่ต้นหอม หอมแดง ผักชีใบเลื่อย ใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้ทั่ว จัดเสิร์ฟ

ลาบเห็ดมีสมุนไพรหลากหลาย ต้นหอม และหอมแดง อุดมด้วยสารแอลลิซินช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกันโรคหัวใจ ผักชีใบเลื่อย (ผักชีฝรั่ง) มีวิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูกและมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ใบสะระแหน่ มีเมนทอลช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อและระงับกลิ่นปาก พริก เพิ่มการไหลเวียนโลหิตและช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยระบบย่อย ดีท็อกซ์ร่างกาย และลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือด

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม:  https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/ลาบเห็ด

10. แกงเขียวหวานไก่

เมนูสมุนไพร แกงเขียวหวานไก่

ส่วนประกอบ:

  • หัวกะทิ 90 มิลลิลิตร
  • พริกแกงเขียวหวาน 45 กรัม
  • ไก่ไก่ 120 กรัม
  • หางกะทิ (เจ้าหกะทิสละอนม่า) 150 มิลลิลิตร
  • น้ำปลา 5 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 15 กรัม
  • รสดี รสไก่ 1 กรัม
  • ใบมะกรูด 6 ใบ
  • มะเขือเปราะ 300 กรัม
  • มะเขือพวง 30 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าแดง 15 กรัม
  • ใบโหระพา 10 กรัม

วิธีทำ:

  1. นำหัวกะทิเทลงกระทะ รอจนกะทิเดือด แล้วจึงใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้แตกมัน
  2. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้เข้ากับพริกแกง จนเนื้อไก่พอสุก
  3. เติมหางกะทิลงไป รอจนกะทิเดือด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และรสดี รสไก่ คนให้ละลายเข้ากัน
  5. ใส่ใบมะกรูด มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป รอจนแกงเขียวหวานไก่เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ
  6. ใส่พริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพาลงไป คนแกงเขียวหวานไก่ให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย

แกงเขียวหวานใช้สมุนไพร ใบมะกรูด มีน้ำมันหอมระเหยช่วยลดความเครียดและต้านแบคทีเรียในช่องปาก ใบโหระพา มีสารยูจีนอลช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง พริกแกง ประกอบด้วยตะไคร้ ข่า กระชาย ช่วยระบบย่อยและต้านเชื้อโรค พริกชี้ฟ้า มีวิตามินเอและซีสูง ช่วยลดการอักเสบ บำรุงผิวพรรณ เสริมภูมิคุ้มกัน และส่งเสริมสุขภาพระบบทางเดินอาหาร

ดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติม:  https://recipe.ajinomoto.co.th/recipe/แกงเขียวหวานไก่-2

เคล็ดลับการเลือกและเตรียมสมุนไพรมีอะไรบ้าง

การเลือกสมุนไพรสด ควรเลือกใบที่เขียวสด ไม่เหี่ยวแฉะ มีกลิ่นหอมชัด การเก็บรักษาควรล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แช่น้ำแข็งหรือแช่แข็ง ควรล้างก่อนใช้ทุกครั้ง หั่นหรือโขลกตามความเหมาะสม

การใช้สมุนไพรแห้ง ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ส่วนการปรุงรส เริ่มใส่น้อยแล้วค่อยเพิ่ม ชิมรสเป็นระยะ เวลาใส่สมุนไพรหอมควรใส่ขั้นตอนท้าย ๆ ส่วนสมุนไพรแกงควรใส่แรก ๆ

ข้อควรระวังในการบริโภคอาหารสมุนไพรมีอะไรบ้าง

ผู้ที่แพ้อาหารควรระวังสมุนไพรที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น กุ้งแห้ง ถั่ว สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงสมุนไพรบางชนิด เช่น ดีปลี กะเพรา และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคสมุนไพรในปริมาณมาก

กินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรกินมากเกินไป สำหรับการทำความสะอาดนั้น ให้ล้างสมุนไพรให้สะอาดก่อนใช้ และเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้

อาหารสมุนไพรไทยคือการผสมผสานระหว่างความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างลงตัว การบริโภคอาหารที่มีสมุนไพรเป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ ป้องกันโรค และบำรุงร่างกายให้แข็งแรง

เมนูสมุนไพร 10 อย่างที่แนะนำล้วนเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย ทำเองก็ไม่ยาก และมีสมุนไพรที่ให้ประโยชน์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการต้านเชื้อโรค ต้านอนุมูลอิสระ หรือช่วยย่อยอาหาร

อาหารเป็นยา ยาเป็นอาหาร คือหลักการสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีไปตลอดชีวิต ด้วยเมนูสมุนไพรที่อร่อยและมีประโยชน์จากธรรมชาติ

Reference:

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับเว็บไซต์ของเรา