Loading...
เว็บไซต์ อายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย
เว็บไซต์ อายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย
Banner of <p>วิธีทำยำทะเล สูตรลดโซเดียม โดย &lsquo;เชฟลัท&rsquo;</p>
Banner of <p>วิธีทำยำทะเล สูตรลดโซเดียม โดย &lsquo;เชฟลัท&rsquo;</p>

วิธีทำยำทะเล สูตรลดโซเดียม โดย ‘เชฟลัท’

5.00 / 5
30
นาที
 เริ่มต้น
2
ที่
ส่วนประกอบ

กุ้งขาว แกะเปลือก ผ่าหลัง เอาไส้ออก

200 กรัม

หมึก หั่นแว่น

50 กรัม

ปูอัด หั่นเป็นท่อนพอดีคำ

50 กรัม

เห็ดหูหนูขาว (แช่น้ำให้นิ่ม หั่นพอดีคำ)

50 กรัม

เนื้อหมูบด

50 กรัม

น้ำปลา

2 ช้อนชา

น้ำมะนาว

2 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย

2 ½ ช้อนชา

พริกขี้หนูบุบ 2-3 เม็ด (หรือตามชอบ)

มะเขือเทศราชินีผ่าครึ่ง

7-10 ลูก

หอมใหญ่ซอยตามยาว

½ ลูก

ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน

1 ต้น

ผักสลัด สำหรับตกแต่ง (ตามชอบ)

หมายเหตุ : สูตรปกติ ใส่น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

ข้อมูลโภชนาการ
พลังงาน
ENER (kcal)
486.8
โปรตีน
PRO (g)
67.4
คาร์โบไฮเดรต
CHO (g)
27.1
ไขมัน
FAT (g)
12.1
โซเดียม
NA (mg)
772
ใยอาหาร
FBD (g)
5.9
ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในเมนูนี้
ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในเมนูนี้
วิธีทำ

ยำทะเล ขึ้นแท่นเป็นเมนูโปรดของหลายๆ คน น้ำยำกลมกล่อมคลุกเคล้ากับกุ้งเด้งๆ ปลาหมึกกรอบๆ ยากที่จะอดใจไหว แม้จะเป็นเมนูที่ดูทำไม่ยาก เพียงลวกเครื่องและคลุกกับน้ำยำ แต่ก็ไม่บ่อยนักที่จะเจอร้านที่ทำอร่อย บ้างติดหวาน บ้างติดเค็มเกินไป เนื้อกุ้งยุ่ย ปลาหมึกเหนียวเคี้ยวยาก
 

วันนี้จึงขอชวนมาเข้าครัว ทำ ‘ยำทะเล’ (สูตรลดโซเดียม) กับเชฟลัท - รภัสสรณ์ จิรจุรีย์ชัย ที่จะมาแจกเคล็ด(ไม่)ลับ ในการลวกกุ้งให้เด้ง รวมถึงปรุงน้ำยำฉบับน้อยแต่มาก ให้กลมกล่อม จัดจ้าน และที่สำคัญช่วยลดโซเดียม ดีต่อสุขภาพ ถูกใจคนชอบกินยำ

 1.  ตั้งหม้อต้มน้ำจนเดือด 

รินน้ำสะอาดใส่หม้อ ตั้งเตา และเปิดไฟแรงให้น้ำเดือด จากนั้นค่อยๆ นำวัตถุดิบทั้งกุ้ง หมึก ปูอัด และเห็ดหูหนูขาวลงไปลวกทีละอย่าง พอสะดุ้งน้ำร้อน ระวังอย่าให้สุกเกินไป

หากไม่มั่นใจ กลัวจะสุกเกิน ให้หรี่ไฟรอจนน้ำหายเดือด แล้วค่อยๆ ลวกวัตถุดิบแต่ละอย่าง ประมาณ 1-2 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของชิ้น จากนั้นคอยสังเกตดูว่าสุกหรือยัง แล้วค่อยตักออกมาพักไว้ ยิ่งน็อคในน้ำแข็งจะยิ่งช่วยให้เนื้อสัตว์เด้งและกรอบขึ้นไปอีก

เคล็ดลับสังเกต ‘ความสุก’

  • กุ้ง : เนื้อตรงกลางตัวเริ่มออกสีขาวอมส้ม
  • หมึก : เนื้อเริ่มเป็นสีขาวขุ่น ไม่ใสเหมือนหมึกสด
  • ปูอัด : สุกอยู่แล้ว ลวกให้พอร้อนก็นำขึ้นได้
  • เห็ดหูหนูขาว : ลวกให้พอร้อน สุกกำลังดี หากนานเกินไปจะทำให้เละได้

 2.   รวนหมูสับในน้ำเปล่าจนหอมกรุ่น

ส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างคือ ‘หมูสับ’ ที่ช่วยเพิ่มเนื้อสัมผัสให้จานนี้ วิธีเตรียมไม่ยาก เพียงตั้งกระทะ เปิดไฟอ่อน และนำหมูสับลงไปรวนช้าๆ เติมน้ำสะอาดลงไป 1-2 ช้อนโต๊ะ เพื่อทำให้เนื้อหมูฉ่ำและนุ่ม ไม่แห้งจนเดินไป

จะปรุงรสด้วยเกลือหรือ ผงชูรส อายิโนะโมะโต๊ะ เพิ่มเติมให้หมูสับมีรสชาติเพิ่มมากขึ้นก็ได้ แต่อย่าลืมเบามือ เพราะหมูยังต้องนำคลุกเคล้ากับน้ำยำรสจัดจ้าน รวนหมูจนสุก จากนั้นตักขึ้นไปพักไว้รวมกับเครื่องยำอื่นๆ

 3.  ปรุงน้ำยำรสเด็ด สูตรลดโซเดียม


 

น้ำยำสูตรเด็ดนั้นทำง่ายแสนง่าย เพียงใส่น้ำปลา ตามด้วยน้ำมะนาว และน้ำตาลทรายแดงอันมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผงชูรส อายิโนะโมะโต๊ะ เพียง 1 ช้อนชาก็ช่วยทำให้น้ำยำมีรสอูมามิยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด สำหรับน้ำยำของจานนี้ จะยิ่งช่วยให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันและกลมกล่อม ที่สำคัญใส่ได้ไม่ต้องกลัวเค็ม เพราะในผงชูรสมีโซเดียมอยู่เพียง 1 ใน 3 ของเกลือเท่านั้น

คลุกจนน้ำตาลละลาย น้ำยำเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเติมพริกขี้หนูซอยตามใจชอบ สำหรับใครที่ไม่ทานเผ็ด ใช้พริกจินดาแดงแทนได้ เพราะไม่เผ็ดแต่ยังทำให้ยำจานนี้สีสวย

 4.  คลุกเคล้าและเพิ่มสีสัน



เทน้ำยำคลุกกับเครื่องที่พักไว้จนเข้าเนื้อ จากนั้นหั่นมะเขือเทศจินดาลงไปเพื่อเพิ่มสีสัน หากใครชอบมะเขือเทศลูกใหญ่ก็ไม่ว่ากัน ซอยหอมหัวใหญ่เป็นแว่นตามลงไป และตบท้ายด้วยคึ่นฉ่ายซอยหยาบๆ เพิ่มความหอม เข้ากันดีกับยำทะเลรสจัดจ้าน

 5.   วางผักสลัด จัดจาน ‘ยำทะเล’

วางผักสลัด จัดยำลงในจานให้สวยงาม จานนี้มีแคลอรีเพียง 238 kcal และช่วยลดโซเดียมไปได้ถึง 49 เปอร์เซ็นต์จากสูตรปกติ

การทำยำทะเลไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แถมยังรสชาติถูกปากคนกินเพราะปรุงเอง ที่สำคัญเรามั่นใจได้ว่าวัตถุดิบจะสะอาด เครื่องปรุงทั้งหลายที่ใช้จะปลอดภัย เป็นมิตรกับไต ถูกใจคนรักสุขภาพที่ชอบกินยำ