“อายิโนะโมะโต๊ะ” ปลื้มความสำเร็จไตรมาสแรก แคมเปญ “เก็บดี มีสุข” สามารถเก็บกลับขยะบรรจุภัณฑ์จากชุมชน เข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้มากกว่า 5.4 ตัน

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “อายิโนะโมะโต๊ะ x Trash Lucky” เปิดตัวโครงการ “เก็บดีมีสุข” (Waste to Worth for Well-Being) เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม สอดรับกับเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง 50% ภายในปี 2030 ให้สำเร็จ ด้วยการเดินหน้าจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน มุ่งเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะขยะจากชุมชนที่จัดเก็บและนำไปจัดการต่อได้ยาก



ไตรมาสแรกของการลุยภารกิจทำให้คนไทย “อยู่ดีมีสุข” ผ่านสตาร์ทอัพนวัตกรรมขยะให้โชคอย่าง Trash Lucky ที่เปลี่ยนขยะให้เป็นขุมทรัพย์ ส่งเสริมความยั่งยืนร่วมกับภาคครัวเรือนในการจัดการปัญหาขยะพลาสติก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขยะแลกแต้ม เก็บดีมีสุข” โดยดำเนินการร่วมกับ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และผู้นำชุมชนต้นแบบนำร่องทั้ง 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนแฟลตสิริสาสน์ ชุมชนทอผ้า และชุมชนครัวใต้ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับคนในชุมชนได้ตระหนักถึงผลกระทบของมลพิษขยะที่มีผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมสร้างแรงจูงใจในการคัดแยกขยะให้กับคนไทย ผ่านแพลตฟอร์มที่ทุกคนสามารถร่วมจัดการขยะรีไซเคิลได้ด้วยตัวเอง ซึ่งขยะที่ได้จากชุมชนจะมีการนำไปจัดการต่อด้วยการรีไซเคิล และเปลี่ยนเป็นพลังงานเชื้อเพลิง

ผลการดำเนินการ การเก็บกลับขยะบรรจุภัณฑ์จากชุมชนระยะแรก (พฤษภาคม-กรกฎาคม)  สามารถเก็บกลับขยะบรรจุภัณฑ์หลังการบริโภคจากชุมชน ส่งเข้าสู่ระบบรีไซเคิลได้ทั้งสิ้นกว่า 5,401 กิโลกรัม ประกอบด้วย ขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติก 1,182 กิโลกรัม จัดเป็นประเภทขยะพลาสติกผสม (Mixed plastic waste) 47 กิโลกรัม และขยะบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่นๆ 4,219 กิโลกรัม 

 ลดขยะบรรจุภัณฑ์ => 5,401 กิโลกรัม

 ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ => 4,284  kgCO2e

 เทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดูดซับโดยต้นไม้ใหญ่ => 476 ต้น

โครงการดังกล่าวเป็นการแสดงเจตนารมณ์ความรับผิดชอบของผู้ผลิตกับการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) พัฒนาและต่อยอดความยั่งยืนโดยใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งสู่เป้าหมายการลดขยะพลาสติกเป็นศูนย์ ภายในปี 2030 ซึ่งนอกจากจะช่วยเปลี่ยนมุมมองให้ชุมชนเห็นคุณค่าของขยะมากขึ้นและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการ

คัดแยกขยะที่ต้นทางแล้ว ยังสามารถช่วยลดปริมาณการทิ้งขยะลงสู่ทะเลหรือฝังกลบ อันเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพลิกฟื้นสิ่งแวดล้อม ช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับสังคมไทย



ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ ยังคงเดินหน้าต่อไปในการดำเนินธุรกิจภายใต้ปณิธานความมุ่งมั่นของบริษัทฯ รวมถึงการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในการสร้างความอยู่ดีมีสุข (Leading in creation of Well-Being) อันจะนำไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนภายในปี 2030 ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมหลักเพื่อสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมอย่างยั่งยืน (The Ajinomoto Group Creating Shared Value: ASV")