Ajinomoto Thailand

“ควรบริโภคก่อน” หรือ Best Before คืออะไร? กินได้ไหม

02/12/2025
eye
19
|

หลายครั้งที่เราไปช้อปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ตคว้าสินค้าเข้าตะกร้าโดยไม่ได้สังเกตฉลากอย่างละเอียด บางคนอาจเห็นคำว่า "Best Before" หรือ "ควรบริโภคก่อน" แล้วสับสนว่ามันคืออะไร ต่างจาก "วันหมดอายุ" อย่างไร และที่สำคัญ ถ้าอาหารเลยวัน Best Before คือกินได้หรือไม่?

ในยุคที่ค่าครองชีพสูง การทิ้งอาหารที่ยังกินได้เป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องระวังเรื่องความปลอดภัยในการบริโภคอาหารด้วย ความเข้าใจที่ถูกต้องควรบริโภคก่อน คืออะไร จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการสูญเสียอาหาร และที่สำคัญคือรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า Best Before คืออะไร ต่างจากวันหมดอายุอย่างไรและมีวิธีตรวจสอบความปลอดภัยของอาหารอย่างไร มาเริ่มกันเลย

Best Before คืออะไร?

Best Before คือตัวบอกคุณภาพไม่ใช่ตัวบอกความปลอดภัย

"ควรบริโภคก่อน" หรือ Best Before คือวันที่ที่ผู้ผลิตรับรองว่าอาหารจะมีคุณภาพที่ดีที่สุดในด้านรสชาติเนื้อสัมผัส กลิ่น และคุณค่าทางโภชนาการ หากเก็บรักษาตามคำแนะนำที่ระบุไว้บนฉลาก

สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจควรบริโภคก่อน คือตัวบอกคุณภาพ ไม่ใช่ตัวบอกความปลอดภัย นั่นหมายความว่าหลังจากเลยวันที่ระบุไว้แล้ว อาหารอาจมีรสชาติที่เปลี่ยนไป เนื้อสัมผัสไม่กรอบเท่าเดิม หรือสีอาจจางลง แต่ไม่ได้หมายความว่าอาหารนั้นเสียหรืออันตรายต่อสุขภาพทันที

ตัวอย่างเช่น ขนมกรุบกรอบที่เลยวัน Best Before อาจไม่กรอบเหมือนเดิม แต่ก็ยังกินได้ หรือเครื่องเทศที่เลยวันอาจมีกลิ่นหอมลดลง แต่ไม่ได้เป็นอันตราย อาหารกระป๋องที่เลยวันอาจมีเนื้อสัมผัสนิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังปลอดภัยในการบริโภค

ผู้ผลิตกำหนดวัน Best Before จากการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในสภาวะการเก็บรักษาต่าง ๆ โดยพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงของสี กลิ่น รสชาติ และเนื้อสัมผัส มากกว่าการพิจารณาจากความปลอดภัยทางจุลินทรีย์

วันหมดอายุ (Expiry Date) คืออะไร?

วันหมดอายุ (Expiry Date) หรือบางทีเรียกว่า "Use By" เป็นวันที่ที่ผู้ผลิตรับรองว่าอาหารจะปลอดภัยในการบริโภค หากเก็บรักษาอย่างถูกวิธี วันหมดอายุเป็นเรื่องของความปลอดภัย ไม่ใช่แค่คุณภาพเหมือน Best Before

หลังจากเลยวันหมดอายุแล้ว อาหารอาจมีจุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย เช่น แบคทีเรีย รา หรือยีสต์ เจริญเติบโตขึ้นจนถึงระดับที่อาจทำให้เกิดโรคได้ แม้ว่าอาหารจะดูกลิ่นปกติก็ตาม อาหารที่ต้องระบุวันหมดอายุโดยเฉพาะคืออาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเน่าเสีย เช่น

  • เนื้อสัตว์สด ปลา ไก่
  • นมพาสเจอร์ไรส์และผลิตภัณฑ์จากนม
  • อาหารพร้อมรับประทานที่มีโปรตีนสูง
  • อาหารที่มีความชื้นสูง
  • ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

การรับประทานอาหารที่เลยวันหมดอายุอาจเสี่ยงต่อการเกิดอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ความแตกต่างระหว่าง Best Before กับวันหมดอายุมีอะไรบ้าง?

Best Before (ควรบริโภคก่อน)

Expiry Date (วันหมดอายุ)

ความหมาย

วันที่อาหารมีคุณภาพดีที่สุด

วันที่อาหารปลอดภัยในการบริโภค

เกี่ยวกับ

คุณภาพ - รสชาติ เนื้อสัมผัส กลิ่น

ความปลอดภัย - จุลินทรีย์ที่เป็นอันตราย

หลังเลยวันที่

อาหารยังกินได้ แต่คุณภาพอาจลดลง

ไม่ควรบริโภค เสี่ยงต่ออาหารเป็นพิษ

ตัวอย่างอาหาร

ขนม อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง เครื่องเทศ ซอส

เนื้อสด ปลาสด นมสด อาหารพร้อมทาน

ความเสี่ยง

ต่ำ - ส่วนใหญ่ปลอดภัย

สูง - อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

การตรวจสอบ

ดู ดมกลิ่น ชิม เพื่อตรวจสอบคุณภาพ

ห้ามบริโภคหลังหมดอายุโดยเด็ดขาด

การบังคับใช้

ไม่บังคับตามกฎหมายในบางประเภท

บังคับตามกฎหมายสำหรับอาหารเสี่ยงสูง

Best Before กินได้ไหม? ปลอดภัยแค่ไหน?

Best Before กินได้ไหม ปลอดภัยหรือป่าว

คำตอบสั้น ๆ ของคำถามคือ อาหารที่เลยวัน Best Before ส่วนใหญ่ยังปลอดภัยในการบริโภค หากเก็บรักษาอย่างถูกวิธีและไม่มีสัญญาณของการเสีย

อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของอาหาร วิธีการเก็บรักษา และระยะเวลาที่เลยวัน Best Before ไป อาหารบางประเภทสามารถเก็บได้นานหลังเลยวันที่ระบุ ในขณะที่บางประเภทอาจเสื่อมคุณภาพเร็วกว่า

สิ่งสำคัญคือต้องใช้วิจารณญาณและตรวจสอบอาหารด้วยประสาทสัมผัสก่อนรับประทาน ถ้าอาหารมีกลิ่นเน่าเสีย สีเปลี่ยน ขึ้นรา หรือเนื้อสัมผัสผิดปกติ แม้จะยังไม่เลยวัน Best Before ก็ไม่ควรรับประทาน

วิธีกินอาหารที่เลยวัน Best Before อย่างปลอดภัย ทำอย่างไร

  1. ตรวจสอบด้วยสายตา: ดูว่ามีการเปลี่ยนสี มีรา หรือลักษณะผิดปกติหรือไม่ บรรจุภัณฑ์พองหรือเป่งเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญ
  2. ดมกลิ่น: หากมีกลิ่นเปรี้ยว เหม็นหืน หรือผิดปกติบ่งบอกว่าอาหารเสีย แม้ว่าอาหารบางประเภทอาจมีกลิ่นแปลกเล็กน้อยโดยธรรมชาติ แต่ถ้าสงสัยไม่ควรเสี่ยง
  3. เนื้อสัมผัส: อาหารที่มีเมือกลื่น เหนียว หรือเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไปมากไม่ควรรับประทาน
  4. ชิมเล็กน้อย: หากผ่านการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ลองชิมเล็กน้อย ถ้ารสชาติผิดปกติ ขม หรือเปรี้ยว ไม่ควรกินต่อ
  5. ปรุงให้สุก: สำหรับอาหารบางประเภท การปรุงในอุณหภูมิสูงจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียบางชนิด แต่ไม่ใช่ทุกชนิด
  6. ใช้วิจารณญาณ: ถ้าสงสัยว่าอาหารอาจไม่ปลอดภัย อย่าเสี่ยง การประหยัดเงินไม่คุ้มกับความเสี่ยงต่อสุขภาพ

อาหารประเภทใดใช้ Best Before?

อาหารที่มักใช้ ควรบริโภคก่อน คืออาหารที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการเน่าเสีย เช่น

  • อาหารแห้ง: ข้าว พาสต้า ธัญพืช ถั่ว แป้ง - เก็บได้หลายเดือนถึงหลายปีหลังเลยวัน Best Before
  • อาหารกระป๋อง: ผัก ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์กระป๋อง - เก็บได้หลายปีหากกระป๋องไม่มีรอยบุบหรือเป่ง
  • ขนมขบเคี้ยว: บิสกิต ขนมกรุบกรอบ ช็อกโกแลต - อาจไม่กรอบหรือหอมเท่าเดิม แต่ยังกินได้
  • เครื่องปรุง: ซอส น้ำสลัด เครื่องเทศ - คุณภาพลดลง แต่ปลอดภัย
  • นมยูเอชที: นมกล่องที่ฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง - เก็บได้นานหลังเลยวัน Best Before
  • อาหารแช่แข็ง: เนื้อสัตว์แช่แข็ง ผักแช่แข็ง - เก็บได้นานมากหากแช่แข็งตลอด

สัญญาณที่บอกว่าอาหารเสียแล้ว ไม่ควรกิน มีอะไรบ้าง

แม้อาหารจะยังไม่เลยวัน Best Before หรือวันหมดอายุ แต่ถ้ามีสัญญาณเหล่านี้ก็ไม่ควรบริโภค

  1. มีรา: รา สีเขียว ขาว หรือดำบนอาหาร แม้เพียงเล็กน้อย การตัดส่วนที่มีราออกอาจไม่ปลอดภัย เพราะเส้นใยของราอาจแทรกลึกลงไปในอาหาร
  2. กลิ่นเหม็น เปรี้ยว หรือแปลก: กลิ่นที่ไม่ปกติเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอาหารเสีย อย่าลองชิม
  3. เปลี่ยนสี: อาหารที่เปลี่ยนสีจากเดิมอย่างชัดเจน เช่น เนื้อสีเทา เขียว ผักเหลืองเกินไป
  4. เนื้อสัมผัสลื่น เหนียว หรือเมือก: บ่งบอกว่ามีแบคทีเรียเจริญเติบโต
  5. บรรจุภัณฑ์พอง: กระป๋องหรือถุงที่พองเป่งเป็นสัญญาณว่ามีก๊าซจากการหมักของแบคทีเรีย อันตรายมาก
  6. มีฟอง: ของเหลวที่มีฟองผิดปกติ โดยเฉพาะนมหรือน้ำผลไม้
  7. รสชาติขม เปรี้ยว หรือผิดปกติ: หากชิมแล้วรสชาติแปลก อย่ากลืน
  8. มีแมลงหรือหนอน: สัญญาณชัดเจนว่าอาหารเน่าเสียเสื่อมสภาพแล้ว

สิ่งที่ควรทำหากอาหารเลยวัน Best Before

เมื่อพบว่าอาหารในบ้านเลยวันที่ควรบริโภคก่อนไปแล้ว ควรทำดังนี้

  1. ตรวจสอบประเภทของวันที่: ดูว่าเป็น "Best Before" หรือ "Expiry Date" ถ้าเป็น Expiry Date ของอาหารเสี่ยงสูง ควรทิ้งทันที
  2. ตรวจสอบสภาพอาหาร: ใช้ดู ดมกลิ่น สัมผัส เพื่อประเมินสภาพ ดูที่สัญญาณการเสีย
  3. พิจารณาระยะเวลา: อาหารเลยวัน Best Before มา 1-2 วันมักปลอดภัย แต่ถ้าเลยมาหลายเดือน ต้องระมัดระวังมากขึ้น
  4. พิจารณาวิธีเก็บรักษา: อาหารที่เก็บในตู้เย็นหรือแช่แข็งตลอดมักปลอดภัยกว่าที่เก็บที่อุณหภูมิห้อง
  5. ใช้ในการปรุงอาหาร: อาหารที่ใกล้เลยวัน Best Before สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารจานอื่นได้ เช่น ผลไม้ที่เริ่มนิ่ม ทำเมนูสมูทตี้ ขนมปังแข็งทำเป็นแครกเกอร์
  6. แช่แข็ง: ถ้ายังไม่พร้อมใช้ แช่แข็งจะช่วยยืดอายุได้
  7. ถ้าสงสัย ทิ้งเลย: อย่าเสี่ยงกับสุขภาพ การประหยัดเงินไม่คุ้มกับค่ารักษาพยาบาล

วันที่สำคัญบนฉลากอาหารที่ควรรู้จักคืออะไร

นอกจาก Best Before และ Expiry Date แล้ว ยังมีวันที่อื่น ๆ บนฉลากอาหารที่ควรทำความเข้าใจ

  • Use By (ใช้ก่อน): คล้ายกับ Expiry Date บ่งบอกว่าควรบริโภคก่อนวันนี้เพื่อความปลอดภัย
  • Sell By (จำหน่ายก่อน): เป็นข้อมูลสำหรับร้านค้า ไม่ใช่ผู้บริโภค บอกว่าร้านควรขายสินค้าก่อนวันนี้ ผู้บริโภคยังสามารถซื้อและเก็บไว้กินได้อีกสักระยะ
  • Production Date (วันที่ผลิต): บอกว่าอาหารผลิตเมื่อไหร่ ช่วยคำนวณอายุของสินค้า
  • Batch Number (หมายเลขล็อต): สำหรับการติดตามและเรียกคืนสินค้าในกรณีมีปัญหา
  • Packaging Date (วันที่บรรจุ): วันที่อาหารถูกบรรจุลงภาชนะ

การเข้าใจวันที่เหล่านี้จะช่วยให้คุณจัดการอาหารในบ้านได้ดีขึ้น ลดการสูญเสีย และรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

เคล็ดลับการเก็บรักษาอาหารให้คงคุณภาพทำอย่างไร

การเก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุและคงคุณภาพได้นานขึ้น

  1. ตู้เย็นต้องเย็นพอ: รักษาอุณหภูมิไว้ที่ 4°C หรือต่ำกว่า ตู้แช่แข็งที่ -18°C
  2. เก็บในภาชนะที่เหมาะสม: ใช้ภาชนะปิดสนิท กันอากาศและความชื้น สำหรับอาหารแห้งใช้ภาชนะโปร่งใส เห็นปริมาณง่าย
  3. แยกประเภทอาหาร: เนื้อสดแยกจากผัก อาหารสุกแยกจากดิบ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
  4. ใช้หลัก FIFO: First In First Out ใช้ของเก่าก่อนของใหม่ วางของใหม่ไว้ด้านหลัง
  5. หลีกเลี่ยงแสงแดด: เก็บในที่แห้ง เย็น ไม่โดนแสงแดดโดยตรง
  6. ระบุวันที่: เขียนวันที่เปิดหรือย้ายบรรจุ เพื่อติดตามอายุ
  7. อย่าเปิดบ่อย: การเปิดตู้เย็นบ่อยทำให้อุณหภูมิเปลี่ยน ส่งผลต่ออายุอาหาร
  8. แช่แข็งอย่างถูกวิธี: แบ่งส่วนเล็ก ๆ ติดฉลากวันที่ ใช้ถุงหรือภาชนะกันอากาศ
  9. อย่าล้างก่อนเก็บ: ผักผลไม้ที่ล้างก่อนเก็บจะเน่าเร็ว ล้างก่อนใช้ดีกว่า
  10. ตรวจสอบเป็นประจำ: เช็คตู้เย็นและตู้เก็บอาหารทุกสัปดาห์ จัดระเบียบและทิ้งของที่เสีย

เข้าใจ Best Before แล้วทานอาหารอย่างคุ้มค่า ไม่มีเสียของ

เข้าใจ Best Before แล้วทานอาหารอย่างคุ้มค่า

ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Best Before คืออะไร จะช่วยให้คุณจัดการอาหารในบ้านได้ดีขึ้น ลดการทิ้งอาหารที่ยังสามารถกินได้ ประหยัดค่าใช้จ่าย และที่สำคัญคือรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

ซึ่งข้อดีของ Best Before คืออาหารหลายประเภทยังกินได้ หลังเลยวัน Best Before หากเก็บรักษาดีและไม่มีสัญญาณการเสีย แต่สำหรับวันหมดอายุของอาหารเสี่ยงสูง ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย

Reference:

เราให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของคุณ เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อพัฒนาประสบการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กับผู้ใช้ ท่านตกลงใช้คุกกี้เพื่อใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ดูรายละเอียด นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ ข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับเว็บไซต์ของเรา