Loading...
เว็บไซต์ อายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย
เว็บไซต์ อายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย

อายิโนะโมะโต๊ะ พัฒนาท่อนพันธ์มันสำปะหลังสะอาดและทนทานต่อโรคใบด่าง มุ่งส่งเสริมเพิ่มผลผลิตและคุณภาพให้พี่น้องเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน

31/07/2023

          อายิโนะโมะโต๊ะ มุ่งพัฒนาภาคเกษตกรรมอย่างยั่งยืน ผ่านกิจกรรมบูรณาการต่าง ๆ เพื่อ “ช่วยแก้ปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับกลุ่มเกษตรกรไทย” โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นผู้ส่งมอบ “วัตถุดิบหลัก” เข้าสู่กระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัทฯ อันเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ในการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคม (The Ajinomoto Group Creating Shared Value : ASV) ที่เรายึดมั่นดำเนินการผ่านทุกกิจกรรมทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

           เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด ในเครืออายิโนะโมะโต๊ะ ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการจัดเตรียมท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่สะอาดและทนทานต่อโรคใบด่าง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ได้ทำการส่งมอบท่อนพันธุ์สะอาดให้กับ บริษัท เอเซียโมดิไฟด์สตาร์ช จำกัด จำนวน 6,700 ท่อน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี วิทยาเขตราชบุรี จำนวน 1,260 ท่อน เพื่อทดสอบประสิทธิภาพในปีแรกและกระจายต่อสู่เกษตรกรในปีถัดไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยให้เกษตรกรกว่า 161 ครัวเรือน มีท่อนพันธุ์ที่ปลอดจากโรคใบด่าง และสามารถใช้ในการเพาะปลูกครอบคลุมพื้นที่ 1,088 ไร่ อันจะช่วยส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรสามารถทำการปลูกมันสำปะหลังได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน และได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นจากการได้ใช้ท่อนพันธุ์มันที่สะอาดและมีคุณภาพดีอีกด้วย

            ซึ่งจากการเปิดเผยข้อมูลในปัจจุบัน พบว่า “มันสำปะหลังถือเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งไทยได้มีการส่งออกมากเป็นอันดับสามของโลก และสร้างรายได้เข้าประเทศเฉลี่ยหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี” แต่เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคใบด่างในมันสำปะหลัง ทำให้จำนวนผลผลิตที่ได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้กว่า 20-80% ต่อปี อีกทั้งยังเพิ่มค่าใช้จ่ายของเกษตรกรให้สูงขึ้นจากการที่ต้องหาท่อนพันธุ์ใหม่ที่ปลอดโรค เพื่อนำมาใช้ปลูกมันสำปะหลังใหม่ในรอบปีถัดไป

            ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวนี้ จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพี่น้องเกษตรกรไทยให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถปลูกมันสำปะหลังได้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะไม่โดนผลกระทบจากโรคใบด่าง พร้อมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการที่ต้องหาท่อนพันธุ์มันสำปะหลังใหม่มาปลูกทดแทนต้นเดิมที่ติดโรค จึงช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาขยะอาหารจากการสูญเสียผลผลิตมันสำปะหลังจากโรคระบาดไปอย่างสูญเปล่าอีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของเราในการ “สร้างความยั่งยืนของโลก” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คนทั่วโลก